การปลูกพืชในโรงเรือนเพาะปลูกช่วยให้สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมและปัจจัยที่มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชได้หลายประการ โดยเป็นที่ทราบกันดีว่าปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญในการเจริญเติบโตของพืชได้แก่แสงแดด อากาศ อุณหภูมิ ดิน น้ำ ปุ๋ยและแร่ธาตุ และปัจจัยที่ส่งผลต่อการชะลอการเจริญเติบโตหรือเป็นอาจเป็นอันตรายต่อพืชเช่น โรคพืช สัตว์และแมลงศตรูพืช เป็นต้น ดังนั้นจึงมีข้อแนะนำในการปลูกพืชในโรงเรือนเพาะปลูกเพื่อให้เกิดและมีสภาพแวดล้อมและปัจจัยที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชดังนี้
ปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช
1. แสงแดด พืชแต่ละชนิดมีความต้องการแสงแดงในปริมาณที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกทำเลที่่ตั้งโรงเรือนเพาะปลูกย่อมมีความสำคัญเพราะมีผลต่อปริมาณแสงแดดที่พืชแต่ละชนิดจะได้รับเพื่อนำไปสังเคราะห์แสงนั่นก็คือกระบวนการสร้างอาหารของพืช ดังนั้นจึงควรพิจารณาว่าในช่วงฤดูที่ทำการเพาะปลูกทิศทางของแสงแดดอยู่ในตำแหน่งโรงเรือนเพาะปลูกของเราหรือไม่ และช่วงเวลาไหนบ้างที่ได้รับแสงแดด ช่วงเช้า ช่วงบ่าย หรือตลอดทั้งวัน เพื่อที่จะได้พิจารณาว่าพืชที่เพาะปลูกเหมาะสมกับแสงแดดที่จะได้รับหรือไม่ กรณีที่แสงแดดมีความร้อนมากเกินไป อาจต้องพิจารณาอุปกรณ์ช่วยพรางแสงเข้ามาช่วย โดยเฉพาะพืชที่อยู่ในช่วงอนุบาลต้นกล้า พักฟื้น หรือพืชที่ง่ายต่อการอบเฉาเป็นต้น
2. อากาศ พืชก็เหมือนคนเราที่ต้องการอากาศในการหายใจเอาออกซิเจนเข้าไป โดยพืชจะใช้ปากใบ หรือรากในการหายใจ ดังนั้นถ้าหากโรงเรือนตั้งอยู่ในตำแหน่งที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก ก็จะช่วยทำให้พืชแข็งแรงและเจริญเติบโตได้ดี (เพื่อให้เกิดการถ่ายเทอากาศที่สะดวกควรเปิดหน้าต่างโรงเรือน หรือเปิดหน้าต่างให้อากาศหมุนเวียนผ่านตาข่ายกันแมลงในทุกด้านของโรงเรือนเพาะปลูกในกรณีที่ไม่มีอากาศหมุนเวียน)
3. อุณหภูมิ มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช ผลต่อการงอกของเมล็ดที่ทำการหว่านไว้ อุณภูมิที่สูงหรือต่ำเกินไปอาจมีผลทำให้พืชหยุดชะงัก เจริญเติบโตช้า ในกรณีที่อุณหภูมิสูงและอบอ้าวควรเปิดหน้าต่างโรงเรือนเพาะปลูกหรือหน้าต่างตาข่ายกันแมลงในทุกด้านเพื่อเป็นการลดอุณหภูมิภายในโรงเรือน หรือในกรณีที่อยู่ในช่วงขยายพันธุ์พืช เสียบยอด พักฟื้น อบ (เช่นอบต้นไม้ บอนสี) การรักษาอุณหภูมิความชื้นมีความคัญที่จะช่วยให้พืชพื้นตัวและเติบโตได้ดีขึ้น นอกจากนี้อุณหภูมิภายในดินก็มีผลต่อพืชเช่นกันทั้งในเรื่องของการงอกงามของเมล็ด ราก การดูดซึมธาตุอาหาร น้ำ เป็นต้น ดังนั้นในกรณีที่อุณหภูมิภายในดินสูง (ดินแห้ง ขาดความชื้น) อาจต้องพิจารณาสิ่งที่มาช่วยปกคลุมดินเพื่อรักษาอุณหภูมิและความชื้นให้เหมาะสมเช่นการนำฟางข้าวมาคลุมดิน หรือการใช้พลาสติกคลุมดิน เป้นต้น
4. ดิน ปุ๋ยและแร่ธาตุ ดินที่ร่วยซุย มีการระบายอากาศและน้ำที่ดีย่อมเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช และการเสริมด้วยปุ๋ยและแร่ธาตุย่อมช่วยทำให้พืชแข็งแรงสมบูรณ์ เจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์
5. น้ำ ช่วยละลายแร่ธาตุในดิน เพื่อให้พืชดูดซึมไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของพืช นอกจากนี้ยังช่วยทำให้เกิดความชุ่มชื้นภายในดิน ดังนั้นควรพิจารณาการรดน้ำให้เหมาะสมตามแต่ละชนิดของพืช เนื่องจากการรดน้ำในปริมาณมากเกินไป ก็อาจส่งผลทำให้พืชเป็นโรค เกิดรากเน่าได้ เป็นต้น
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการชะลอการเจริญเติบโตหรืออาจเป็นอันตรายต่อพืช
ุ1. ศตรูพืช เช่นแมลงที่เป็นศตรูพืชต่างๆ หอยทาก หนู กระรอก เป็นต้น เป็นปัญหาสำคัญและเป็นอันตรายต่อพืช ดังนั้นการที่พืชถูกปลูกในโรงเรือนเพาะปลูกจะช่วยลดปัญหานี้ได้ นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยลดการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ สัตว์และสิ่งแวดล้อม รวมถึงการมีพืชปลอดสารพิษไว้สำหรับบริโภค เป็นต้น
2. โรคพืช เป็นที่แน่นอนว่าปัจจัยหนึ่งและสำคัญนอกเหนือจากปัญหาศตรูพืช ก็คือโรคพืช ซึ่งเกิดได้จากทั้ง 1) โรคจากสิ่งไม่มีชีวิต เช่นการขาดธาตุอาหาร สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม 2) โรคจากสิ่งมีชิวิต เช่น เชื้อรา แบคทีเรีย ไวรัส เป็นต้น โดยพืชที่อยู่ในโรงเรือนหรือมีการปลูกแบบแยกกระถางจะช่วยให้จำกัด และกำจัดโรคได้สะดวกขึ้น หรือบางกรณีอาจต้องมีความจำเป็นต้องใช้สารชีวภัณฑ์เพื่อช่วยในการกำจัดโรคแล้วแต่กรณี
จะเห็นได้ว่าการปลูกพืชมีปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่ต้องหมั่นคอยตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่าพืชที่ปลูกไปนั้นจะเจริญเติบโตตามที่คาดหวังไว้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่หนักหนาเกินไปเมื่อปลูกพืชในโรงเรือนเพาะปลูกที่สามารถควบคุมปัจจัยบางอย่างได้ ขอให้ทุกท่านสนุกกับการปลูกพืชที่ชอบอย่างมีความสุข
LITTLE FARM IN HOUSE